ย่าน ‘บางพลัด’ พื้นที่ที่ใกล้กับย่านปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี เป็นย่านชุมชนอยู่อาศัยเก่าแก่มาก โดยมีตำนานเล่าขานว่า เป็นย่านที่ผู้คนอพยพหนีมาอยู่อาศัยหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 แก่พม่า เมื่อ พ.ศ. 2310 และได้เกิดการพลัดหลงหรือหลงหายกัน เนื่องจากมีลำคลอง ลำประโดง และมีสวนแน่นขนัด จนกลายเป็นที่มาของชื่อ ‘บางพลัด’ ที่หมายถึง การพลัดหลง หรือหลงถิ่น
แต่ไม่ว่าตำนานเล่าขานนี้จะมีข้อเท็จจริงมากน้อยประการใด ก็ต้องยอมรับว่า ย่านบางพลัด เป็นย่านที่มีคนอาศัยอยู่จำนวนมาก เป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีองค์ประกอบในการอยู่อาศัยครบ ทั้งตลาดสด โรงเรียน โรงพยาบาล
อีกทั้งยังเป็นย่านที่เชื่อมต่อกับถนนสายหลักหลายสาย เช่น ถนนจรัญสนิทวงศ์ เชื่อมระหว่างสี่แยกบรมราชชนนีกับสะพานพระราม 7 ถนนสิรินธร เชื่อมระหว่างทางแยกต่างระดับสิรินธรกับสี่แยกบางพลัด ถนนราชวิถี เชื่อมระหว่างสี่แยกบางพลัดกับสะพานกรุงธน ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ทางขนานขาเข้า) ถนนอรุณอมรินทร์ เชื่อมระหว่างสี่แยกอรุณอมรินทร์กับสะพานพระราม 8 และทางพิเศษศรีรัช เชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก อีกทั้ง ยังมีถนนสายรอง ทางลัดที่เชื่อมไปยัง จ.นนทบุรีด้วย
พื้นที่ติดริมถนนจรัญสนิทวงศ์ของย่านบางพลัด มีความเป็นแหล่งการค้าแบบดั้งเดิม อาคารพาณิชย์เรียงราย ชั้นล่างค้าขาย ชั้นบนอยู่อาศัย มีร้านอาหารชื่อดังหลายแห่ง มีโรงแรมเก่าแก่ริมแม่น้ำ ส่วนตามตรอกซอยซอย บ้านเรือนยุคเก่าจะเป็นบ้านสร้างเองบนที่ดินจัดสรร ส่วนที่เป็นหมู่บ้านจัดสรรใหม่ๆ จะขยับไปทางฝั่งปิ่นเกล้า ซึ่งจะเป็นบ้านระดับไฮเอนด์ ตั้งแต่ 10 ล้านบาท ไปจนถึง 100 ล้านบาท ส่วนบ้านระดับกลาง จะขยับไปทางฝั่ง จ.นนทบุรี และนิยมใช้คำว่า ‘ปิ่นเกล้า-จรัญ’
ด้วยความเป็นชุมชนเก่าแก่ และพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาจนเต็มแล้ว แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยย่านนี้ยังมีต่อเนื่อง เพราะเดินทางสะดวก ทำให้ตลาดบ้านมือสองย่านนี้มีความคึกคักมาก เช่นเดียวกับตลาดอพาร์ตเมนต์ย่านบางพลัดที่มีซัพพลายจำนวนมาก เพราะใกล้กับแหล่งงานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล
อีกทั้งย่านนี้ยังใกล้กับโซนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อารีย์ สะพานควาย จตุจักร ประกอบกับการอยู่ในย่านที่มีอาหารการกินครบครัน จึงทำให้คนที่ต้องมาทำงานในพื้นที่ใกล้เคียง นิยมอยู่อาศัยย่านบางพลัด
นอกจากนี้ แม้ว่าจะไม่มีโครงการรถไฟฟ้า แต่ความที่ใกล้แหล่งงาน และแหล่งเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ในย่านปิ่นเกล้า ทำให้ย่านบางพลัด มีตลาดคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว เพราะรองรับความต้องการกลุ่มคนที่ทำงานย่านนี้และเคยอยู่อพาร์ทเมนท์ให้ขยับมามีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง แต่เมื่อมีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย บางซื่อ-ท่าพระ ก็จะยิ่งทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมย่านบางพลัดมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น
ย่านบางพลัดจะได้รับอานิสงส์จากรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย บางซื่อ-ท่าพระ มากกว่า หัวลำโพง-หลักสอง เพราะใกล้กับทางฝั่งบางซื่อมากกว่า โดยหากวิเคราะห์ตามเส้นทางรถไฟฟ้าสายนี้แล้วจะพบว่า เพียง 4 สถานีเท่านั้นก็ถึงบางซื่อแล้ว 6 สถานีถึงจตุจักร 7 สถานีถึงห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งถือว่าใกล้เมืองทางฝั่งเหนือของกรุงเทพฯ มาก และใกล้พื้นที่ที่จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในไพร์มแอเรียของกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค ใช้ระบบรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Heavy Rail Transit System) ที่มีความจุสูง มีระยะทางรวมประมาณ 27 กิโลเมตร
โดยโครงการฯ มีแนวเส้นทางต่อขยายจากรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ) ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ออกไป 2 ทิศทาง ได้แก่ ช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 16 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดินจำนวน 4 สถานี และโครงสร้างทางวิ่งยกระดับจำนวน 7 สถานี และช่วงเตาปูน-ท่าพระ ระยะทาง 11 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับทั้งหมด จำนวน 8 สถานี
จะทำให้แนวเส้นทางของรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงินมีลักษณะเชื่อมต่อกันเป็นวงแหวนขนาดใหญ่ หรือ Circle Line ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน และเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนครให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ยังมีจุดเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ ได้แก่ รถไฟ รถไฟฟ้า รถโดยสาร และเรือโดยสาร เพื่อช่วยลดความแออัดของการจราจรบนถนนสายสำคัญ ๆ ในเขตเมืองได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน บางซื่อ-ตลิ่งชัน มีสถานีที่ใกล้กับย่านบางพลัด คือ สถานีสิรินธร ซึ่งคาดว่าจะส่งบวกมายังย่านบางพลัดด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันการพัฒนาคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวย่านบางโพ บางอ้อ บางยี่ขัน ย่านบางพลัดยังมีคอนโดมิเนียมใหม่ ๆ เกิดขึ้นไม่มากนัก จึงเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสขยายตัวในอนาคต
รายชื่อ 77 จังหวัดของประเทศไทย ที่เรารับซื้อ Notebook บางพลัด
1. ภาคเหนือ / 9 จังหวัด
1.จังหวัดเชียงราย
2.จังหวัดเชียงใหม่
3.จังหวัดน่าน
4.จังหวัดพะเยา
5.จังหวัดแพร่
6.จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7.จังหวัดลำปาง
8.จังหวัดลำพูน
9.จังหวัดอุตรดิตถ์
———————————————————
2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ / 20 จังหวัด
1.จังหวัดกาฬสินธุ์
2.จังหวัดขอนแก่น
3.จังหวัดชัยภูมิ
4.จังหวัดนครพนม
5.จังหวัดนครราชสีมา
6.จังหวัดบึงกาฬ
7.จังหวัดบุรีรัมย์
8.จังหวัดมหาสารคาม
9.จังหวัดมุกดาหาร
10.จังหวัดยโสธร
11.จังหวัดร้อยเอ็ด
12.จังหวัดเลย
13.จังหวัดสกลนคร
14.จังหวัดสุรินทร์
15.จังหวัดศรีสะเกษ
16.จังหวัดหนองคาย
17.จังหวัดหนองบัวลำภู
18.จังหวัดอุดรธานี
19.จังหวัดอุบลราชธานี
20.จังหวัดอำนาจเจริญ
———————————————————
3.ภาคกลาง
มี 21 จังหวัด (กรุงเทพมหานครไม่ถือเป็นจังหวัด)
1.จังหวัดกำแพงเพชร
2.จังหวัดชัยนาท
3.จังหวัดนครนายก
4.จังหวัดนครปฐม
5.จังหวัดนครสวรรค์
6.จังหวัดนนทบุรี
7.จังหวัดบางพลัด
8.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
9.จังหวัดพิจิตร
10.จังหวัดพิษณุโลก
11.จังหวัดเพชรบูรณ์
12.จังหวัดลพบุรี
13.จังหวัดสมุทรปราการ
14.จังหวัดสมุทรสงคราม
15.จังหวัดสมุทรสาคร
16.จังหวัดสิงห์บุรี
17.จังหวัดสุโขทัย
18.จังหวัดสุพรรณบุรี
19.จังหวัดสระบุรี
20.จังหวัดอ่างทอง
21.จังหวัดอุทัยธานี
———————————————————
4. ภาคตะวันออก / 7 จังหวัด
1.จังหวัดจันทบุรี
2.จังหวัดฉะเชิงเทรา
3.จังหวัดชลบุรี
4.จังหวัดตราด
5.จังหวัดปราจีนบุรี
6.จังหวัดระยอง
7.จังหวัดสระแก้ว
———————————————————
5. ภาคตะวันตก / 5 จังหวัด
1.จังหวัดกาญจนบุรี
2.จังหวัดตาก
3.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
4.จังหวัดเพชรบุรี
5.จังหวัดราชบุรี
———————————————————
6. ภาคใต้ / 14 จังหวัด
1.จังหวัดกระบี่
2.จังหวัดชุมพร
3.จังหวัดตรัง
4.จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.จังหวัดนราธิวาส
6.จังหวัดปัตตานี
7.จังหวัดพังงา
8.จังหวัดพัทลุง
9.จังหวัดภูเก็ต
10.จังหวัดระนอง
11.จังหวัดสตูล
12.จังหวัดสงขลา
13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
14.จังหวัดยะลา