ตัดกับถนนพัฒนาการที่ทางแยกต่างระดับอ่อนนุช-พัฒนาการ ไปทางทิศตะวันออก ตัดกับถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ที่ทางแยกประเวศ ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกตะวันออก) ที่ทางแยกต่างระดับอ่อนนุช และตัดกับถนนสุขาภิบาล 2 ที่ทางแยกโรงพยาบาลสิรินธร ก่อนไปสิ้นสุดถนนที่ซอยอ่อนนุช 90 (โรงพยาบาลสิรินธร) โดยมีถนนที่ตรงต่อเนื่องไปคือถนนลาดกระบัง

หากวิเคราะห์ย่านอ่อนนุชจากแนวถนนอ่อนนุช จะเห็นว่า เป็นถนนสายที่เชื่อมต่อกับถนนหลายสายของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และเป็นจุดที่เชื่อมต่อมาจากถนนสายหลักอย่างสุขุมวิท โดยชุมชนดั้งเดิมของย่านอ่อนนุชเติบโตต่อเนื่องมาจากย่านพระโขนง และเป็นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป เน้นการอยู่อาศัยและการทำการค้าท้องถิ่น ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีรถไฟฟ้า BTSผ่าน ย่านอ่อนนุชยังมีความเป็นเมืองน้อยมาก มีเพียงฝั่งที่ใกล้ถนนสุขุมวิทที่เป็นจุดค้าขายที่คึกคัก มีดิสเคาน์สโตร์เกิดขึ้นทั้งฝั่งถนนอ่อนนุชเองและฝั่งตรงข้าม (ฝั่งติดถนนสุขุมวิท) แต่หากไกลออกไปทางศรีนครินทร์ พัฒนาการ จะเริ่มเห็นเป็นหมู่บ้านจัดสรร และเน้นการอยู่อาศัยเป็นหลัก

แต่เมื่อมีรถไฟฟ้า BTS เปิดให้บริการในราวปี พ.ศ. 2542 และในเวลานั้นยังไม่มีแผนจะพัฒนาส่วนต่อขยายใหม่ ๆ เลย สถานีอ่อนนุช จึงเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างรถสาธารณะอื่น ๆ กับ รถไฟฟ้า ยิ่งเมื่อรถไฟฟ้า BTS เป็นที่นิยม สถานีอ่อนนุช จึงเปรียบเสมือนจุดเชื่อมต่อสำคัญของสุขุมวิทตอนปลาย คนบางนา คนสำโรง ที่ต้องเข้าสู่ตัวเมืองชั้นใน ส่วนใหญ่นิยมมาต่อรถไฟฟ้าที่สถานีนี้ ในช่วงเวลานั้น ย่านอ่อนนุช จึงเป็นย่านที่ร้อนแรงมากของสุขุมวิทตอนปลาย เป็นย่านที่คนทำงานในเมือง กำลังซื้อระดับกลางมองหาที่อยู่อาศัย เพราะเดินทางเข้าถึงใจกลางเมืองได้สะดวก คอนโดฯ ล้านต้นๆ ย่านนี้จึงเติบโตมากในช่วงเวลานั้น

กว่า 10 ปีก่อนที่จะมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง ย่านอ่อนนุชเหมือนถูกบ่มเพาะให้กลายเป็นย่านที่อยู่อาศัยใกล้เมืองในราคาที่เอื้อมถึงเจาะกลุ่มคนทำงานที่ต้องการเดินทางเข้าเมืองสะดวก

ย่าน อ่อนนุช ในปัจจุบัน

หลังจากมีรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง ในปี พ.ศ. 2554 และมีส่วนต่อขยายต่อเนื่องจนปัจจุบันถึงสมุทรปราการในปี พ.ศ. 2561 ตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง เจาะกลุ่มคนทำงาน ได้เปลี่ยนทิศ ขยับไปทางส่วนต่อขยายที่ไกลเมืองออกไป เพราะต้นทุนที่ดินยังไม่สูงมาก ยังทำตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง ล้านต้น ๆ ได้

ขณะที่ย่านอ่อนนุชมีราคาที่ดินที่สูงมากแล้ว ทำให้แนวการพัฒนาในย่านอ่อนนุช มีความเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก จากตลาดคอนโดฯ ล้านต้น ๆ สู่ตลาดคอนโดฯ ระดับราคาเริ่มต้น 2-3 ล้านบาท

กลุ่มเป้าหมายย่านอ่อนนุช ก็มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยหลังจากที่เมืองขยายตัว และคอนโดมิเนียมย่านทองหล่อ เอกมัย สูงขึ้นมาก ทำให้กลุ่มชาวต่างชาติระดับกลางที่เคยอาศัยอยู่ย่านดักงล่าว เริ่มมองหาทำเลใหม่ ๆ ในการอยู่อาศัย และย่านอ่อนนุชก็เป็นทางเลือก เพราะอัตราค่าเช่าไม่สูงมาก และเดินทางสะดวกเหมือนกัน

อีกทั้งการที่ย่านอ่อนนุช มีโรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ (Bangkok International Preparatory and Secondary School) จึงทำให้กลุ่ม Expat ชาวต่างประเทศ เช่น จีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เข้ามาอยู่อาศัยในย่านอ่อนนุชมากขึ้น

อนาคตของย่านอ่อนนุช

อนาคตย่านอ่อนนุชจะกลายเป็นโซนใหม่ของกลุ่ม Expat ชาวต่างประเทศมากขึ้น โดยชาวต่างชาติกลุ่มนี้เริ่มขยับขยายมาเช่าอยู่คอนโดมิเนียมย่านอ่อนนุช เดินไปขึ้นรถไฟฟ้า ซึ่งไลฟ์สไตล์ของชาวต่างชาติแตกต่างจากกลุ่มคนไทย ตรงที่ชาวต่างชาติไม่ติดกับการเดินจากที่พักไปรถไฟฟ้า แต่กลุ่มลูกค้าคนไทยนิยมคอนโดฯ ติดรถไฟฟ้าเลย เพื่อประหยัดเวลาในการเดินเข้าถึง กลุ่มลูกค้าคนไทยระดับกลาง จึงนิยมคอนโดมิเนียมราคาไม่แพงมาก ติดสถานีรถไฟฟ้าที่ไกลออกไป

การที่มีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายยาวไปยังสมุทรปราการ เท่ากับเปิดหน้าดินใหม่ ๆ ให้กับตลาดคอนโดมิเนียม คนมีทางเลือกในการอยู่อาศัยมากขึ้น คอนโดฯ ล้านต้น ๆ ขยับออกไปอยู่ไกลขึ้น แต่ก็เดินทางเข้าเมืองสะดวกเหมือนกัน

ย่านอ่อนนุช ราคาที่ดินแพง จะทำตลาดคอนโดฯ ระดับกลางได้ยากขึ้น และคนอยู่อาศัยทำงานที่อยู่อาศัยย่านนี้จะเข้ารถไฟฟ้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนได้ยาก เพราะคนใช้บริการเต็มมาตั้งแต่ต้น ๆ ทาง ความนิยมซื้อคอนโดมิเนียมย่านนี้จึงอาจลดลง

ผู้ประกอบการที่ยังทำตลาดย่านนี้ต้องปรับตัว ซึ่งเริ่มเห็นการพัฒนาโครงการบ้านใกล้เมืองในย่านอ่อนนุช คอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ โฮมออฟฟิศ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีระดับราคาสูงขึ้นมา เพื่อจับกลุ่มครอบครัว หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ขยายกิจการ

เนื่องจากตลาดอ่อนนุชมีความเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยเรื่องรถไฟฟ้าที่ขยายออกไป และคนระดับกลางมีทางเลือกมากขึ้น จึงเลือกที่จะทำสินค้าที่ไม่ได้เน้นเรื่องติดรถไฟฟ้า แต่เน้นเรื่องเดินทางสะดวก ใกล้เมือง สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ดังนั้น ตลาดบ้านใกล้เมืองย่านอ่อนนุชจะกลายเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นในอนาคต