โดยเริ่มจากการกว้านซื้อที่ดินย่านเพลินจิตเก็บสะสมไว้ตั้งแต่เริ่มต้นทำกำไรจากการค้าขายและธุรกิจต่าง ๆ จนเมื่อสถานกงสุลอังกฤษประจำประเทศไทย (สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ในปัจจุบัน) มีแนวคิดที่จะย้ายสถานกงสุลฯ จากย่านบางรักไปที่ใหม่ นายเลิศจึงเสนอขายที่ดินบริเวณถนนเพลินจิต-วิทยุให้เป็นสถานที่ตั้งใหม่ของสถานกงสุลอังกฤษฯ ในเวลานั้น
ในที่สุด สถานกงสุลอังกฤษฯ ก็ตัดสินใจย้ายจากย่านบางรักมาย่านเพลินจิตในราวปี 2465 ซึ่งเหมือนเป็นการเปิดหน้าดินให้กับพื้นที่บริเวณนี้และพื้นที่ใกล้เคียงอย่างย่านชิดลมไปด้วย โดยหลังจากนั้น ในราวปี 2471 ย่านชิดลม ก็มีสถานที่สำคัญเกิดขึ้น นั่นคือ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนคาทอลิก ที่คนชนชั้นสูงของเมืองไทยในเวลานั้นต้องส่งลูกหลานมาเล่าเรียน และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ย่านชิดลมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ในช่วงที่ย่านเจริญกรุง วังบูรพาบูมไปก่อนแล้ว และถือเป็นแลนด์มาร์คของคนในยุคนั้น ย่านชิดลมยังไม่ได้เป็นที่สนใจของคนกรุงมากนัก แต่เริ่มเห็นภาพความเจริญเติบโตมากขึ้นช่วงหลังปี 2500 ที่มีห้างร้าน บริษัทจากต่างประเทศ หน่วยงานภาครัฐอย่างการไฟฟ้านครหลวงมาตั้งอยู่บนพื้นที่บริเวณนี้ และในปี 2516 ก็เป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญที่กลุ่มเซ็นทรัลตัดสินใจปักธงเปิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม ที่จำหน่ายสินค้าครบครันทุกแผนกและสินค้านำเข้าจากทั่วโลกเป็นสาขาแรก ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม มีส่วนสำคัญที่ทำให้ย่านชิดลมกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่คนกรุงระดับไฮเอนด์ในยุคนั้นต้องมาเยือน
ย่านชิดลมเติบโตด้วยการเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์เป็นหลัก เพราะเจ้าของที่ดินส่วนใหญ่ไม่ขายที่ดินย่านนี้เลย มีแต่ปล่อยให้เช่าพัฒนาเป็นห้างร้าน บริษัท หรือโครงการเชิงพาณิชย์ มีแต่ที่ดินบริเวณซอยสมคิด ซอยที่อยู่ตรงกลางระหว่างย่านชิดลมและย่านเพลินจิต ที่มีการขายและพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ พร้อมกับขายความเป็นคอนโดมิเนียมบนย่านชิดลม แต่ก็มีจำนวนน้อยมาก ไม่กี่โครงการเท่านั้น
จนเมื่อปี 2549 ที่ย่านชิดลมได้ดึงความสนใจของนักลงทุนอีกครั้ง เมื่อสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประกาศขายที่ดินบางส่วนของสถานทูตจำนวน 9 ไร่ ติดกับถนนเพลินจิต ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลชนะการประมูลที่ดินแปลงดังกล่าวไปในราคาตารางวาละ 9.5 แสนบาท รวมแล้วประมาณ 4,000 ล้านบาท เรียกว่า ตารางวาเฉียดล้าน สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการซื้อขายที่ดินในประเทศไทย ถือเป็นที่ดินที่ราคาแพงที่สุดในเวลานั้น ซึ่งต่อมากลุ่มเซ็นทรัลได้นำมาพัฒนาเป็นศูนย์การค้าและโรงแรมในชื่อ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เปิดดำเนินการในปี 2557
การซื้อขายที่ดินแปลงนี้ในราคาสูงลิบ มีผลต่อเนื่องไปยังที่ดินแปลงใกล้เคียง ที่ดินราคาตารางวาละล้าน กลายเป็น เบนช์มาร์ค (Benchmark) ใหม่ให้กับที่ดินใจกลางเมือง โดยเฉพาะย่านเพลินจิต ย่านหลังสวน ที่ต่อมาราคาซื้อขายที่ดินขยับขึ้นแรงมาก
ผ่านมาเกือบ 10 ปี สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประกาศขายที่ดินบริเวณสถานทูตอีกครั้งในปี 2560 โดยครั้งนี้เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 25 ไร่ ซึ่งในปี 2561 กลุ่มเซ็นทรัลร่วมกับกลุ่มฮ่องกงแลนด์ชนะการประมูลด้วยมูลค่าประมาณ 18,600 ล้านบาท เฉลี่ยตารางวาละ 2 ล้านบาท สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการที่ดินอีกครั้ง
ปัจจุบันย่านชิดลมเป็นย่านช้อปปิ้งชั้นนำ ที่ไม่ได้มีเพียงห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลมเท่านั้น แต่ยังมีศูนย์การค้าเดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ ชิดลม รวมถึงศูนย์การค้าในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งมีส่วนส่งเสริมให้ย่านนี้มีความเป็นย่านช้อปปิ้งที่แข็งแกร่งมากขึ้น ถ้ามองภาพรวมตั้งแต่ย่านสยาม ย่านราชประสงค์ มาจนถึงย่านชิดลม พื้นที่บริเวณนี้ก้าวสู่ความเป็น “ช้อปปิ้ง สตรีท” (Shopping Street) ชั้นนำของกรุงเทพมหานคร
ขณะที่การเกิดขึ้นของรถไฟฟ้า BTS ผ่านมาที่ย่านชิดลม BTS สถานีชิดลม ทำให้การเดินทางยุคใหม่มายังย่านชิดลมสะดวกมากขึ้น พื้นที่แห่งนี้จึงไม่ได้จำกัดเฉพาะคนระดับไฮเอนด์เหมือนในอดีตแล้ว แต่ยังเปิดกว้างให้ทุกคนได้มีโอกาสมาสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งบนพื้นที่ใจกลางเมืองแห่งนี้
รีวิวโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์
ภาพของย่านชิดลมจากอดีตจนถึงปัจจุบัน นับเป็นแหล่งช้อปปิ้งระดับไฮเอนด์มายาวนาน ในอนาคตจากโครงการใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย หรือแหล่งช้อปปิ้ง รวมถึงการเปลี่ยนมือของที่ดินแปลงใหญ่ขนาด 25 ไร่ ที่ทางกลุ่มเซ็นทรัล และฮ่องกงแลนด์ได้ไปครอบครอง คาดว่าจะช่วยยกระดับให้ย่านชิดลมกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งระดับลักซ์ชัวรีมากยิ่งขึ้น
รายชื่อ 77 จังหวัดของประเทศไทย ที่เรารับซื้อ Notebook ชิดลม
1. ภาคเหนือ / 9 จังหวัด
1.จังหวัดเชียงราย
2.จังหวัดเชียงใหม่
3.จังหวัดน่าน
4.จังหวัดพะเยา
5.จังหวัดแพร่
6.จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7.จังหวัดลำปาง
8.จังหวัดลำพูน
9.จังหวัดอุตรดิตถ์
———————————————————
2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ / 20 จังหวัด
1.จังหวัดกาฬสินธุ์
2.จังหวัดขอนแก่น
3.จังหวัดชัยภูมิ
4.จังหวัดนครพนม
5.จังหวัดนครราชสีมา
6.จังหวัดบึงกาฬ
7.จังหวัดบุรีรัมย์
8.จังหวัดมหาสารคาม
9.จังหวัดมุกดาหาร
10.จังหวัดยโสธร
11.จังหวัดร้อยเอ็ด
12.จังหวัดเลย
13.จังหวัดสกลนคร
14.จังหวัดสุรินทร์
15.จังหวัดศรีสะเกษ
16.จังหวัดหนองคาย
17.จังหวัดหนองบัวลำภู
18.จังหวัดอุดรธานี
19.จังหวัดอุบลราชธานี
20.จังหวัดอำนาจเจริญ
———————————————————
3.ภาคกลาง
มี 21 จังหวัด (กรุงเทพมหานครไม่ถือเป็นจังหวัด)
1.จังหวัดกำแพงเพชร
2.จังหวัดชัยนาท
3.จังหวัดนครนายก
4.จังหวัดนครปฐม
5.จังหวัดนครสวรรค์
6.จังหวัดนนทบุรี
7.จังหวัดชิดลม
8.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
9.จังหวัดพิจิตร
10.จังหวัดพิษณุโลก
11.จังหวัดเพชรบูรณ์
12.จังหวัดลพบุรี
13.จังหวัดสมุทรปราการ
14.จังหวัดสมุทรสงคราม
15.จังหวัดสมุทรสาคร
16.จังหวัดสิงห์บุรี
17.จังหวัดสุโขทัย
18.จังหวัดสุพรรณบุรี
19.จังหวัดสระบุรี
20.จังหวัดอ่างทอง
21.จังหวัดอุทัยธานี
———————————————————
4. ภาคตะวันออก / 7 จังหวัด
1.จังหวัดจันทบุรี
2.จังหวัดฉะเชิงเทรา
3.จังหวัดชลบุรี
4.จังหวัดตราด
5.จังหวัดปราจีนบุรี
6.จังหวัดระยอง
7.จังหวัดสระแก้ว
———————————————————
5. ภาคตะวันตก / 5 จังหวัด
1.จังหวัดกาญจนบุรี
2.จังหวัดตาก
3.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
4.จังหวัดเพชรบุรี
5.จังหวัดราชบุรี
———————————————————
6. ภาคใต้ / 14 จังหวัด
1.จังหวัดกระบี่
2.จังหวัดชุมพร
3.จังหวัดตรัง
4.จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.จังหวัดนราธิวาส
6.จังหวัดปัตตานี
7.จังหวัดพังงา
8.จังหวัดพัทลุง
9.จังหวัดภูเก็ต
10.จังหวัดระนอง
11.จังหวัดสตูล
12.จังหวัดสงขลา
13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
14.จังหวัดยะลา