ซึ่งในปัจจุบัน RAM จะมีขนาดตั้งแต่ 1GB, 2GB, 4GB, และ 8GB โดยในส่วนนี้เราจะซื้อมาใช้มากหรือน้อยอยู่ที่ความจำเป็นของเรา ซึ่งในเวลานี้ RAM ความจุขนาด 8GB สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์จะถือว่าเป็นมาตราฐานที่สามารถใช้งานได้ครบครันสำหรับการเล่นเกมส์ ทำงานทั่วๆ ไป เปิดเว็บหลายๆ หน้าเพื่อใช้งาน แต่ถามว่าถ้าคอมพิวเตอร์เรามีน้อยกว่า 8GB จะเป็นอะไรหรือไม่ ก็คงต้องบอกว่าไม่เป็นไร เพราะระบบจะเป็นตัวจัดการในการเรียกใช้งานอยู่แล้ว?แต่ในกรณีที่ทราบว่าต้องใช้ร่วมกับโปรแกรมที่มีการใช้แรมเยอะ?การเพิ่มแรมให้มากขึ้น ก็จะช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วและไม่ส่งผลกระทบต่อระบบโดยรวม?
แต่ถ้าอยากรู้ว่าขณะนี้เครื่องเราใช้ RAM ทำงานไปแล้วเท่าไหร่ ให้เปิด Task Manager ขึ้นมา โดยการคลิกขวาที่ Task bar แล้วเลือก Task Manager และเลือกไปที่หัวข้อ Performance ให้ดูในส่วน Memory จะมีสถานะให้เราดูว่ากำลังใช้งานอยู่เท่าไหร่
ที่นี้เรามาดูวิธีการอ่านค่า RAM กันบ้างว่าอ่านอย่างไร และมีอะไรบ้าง
นอกจากส่วนต่างๆ ของ RAM แล้วเราต้องดูด้วยว่าเมนบอร์ดที่เราใช้งานนั้นมันรองรับได้แค่ไหน รองรับ RAM ประเภทอะไร ใส่ได้สูงสุดเท่าไหร่
เช่นเมนบอร์ดระบุว่า Supports Dual Channel DDR3 2100(OC) คือตัวเมนบอร์ดนั้นสามารถใช้งานร่วมกับ RAM DDR3 แบบ Dual Channel และรองรับ BUS 2100 MHz แบบ OC
เพราะฉะนั้นสิ่งที่จำเป็นในการเลือกซื้อคือการรองรับและความต้องการใช้งานของเรา โดยมองที่ค่า DDR และขนาดที่เราต้องการเป็นหลัก หลังจากนั้นดูที่ค่า BUS ว่าเมนบอร์ดเรารองรับไหม จริงๆ แล้วการเลือกซื้อ RAM ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ในปัจจุบันนั้น RAM มีขายมากมายหลากหลายรุ่นมาก จึงทำให้ผู้ใช้งานสับสน โดยเฉพาะผู้ที่จะเริ่มต้นการอัพเกรดคอมพิวเตอร์แบบมือใหม่
อ้างอิง notebookspec