รับเหมาคอมออฟฟิต ,
รับเหมาคอมสำนักงาน ,
รับซื่อคอมพิวเตอร์ เลิกกิจการ ,
รับซื่้อคอมเก่า ,
รับซื้อ PC เก่า
รับซื้อ รับเหมาคอมออฟฟิต จ่ายเงินสดหน้างานทันที มีบริการ แทบทุกจังหวัดในประเทศไทยสนใจ โทรหาเฮียเป้ โทร 0819160211 091-1206831 หรือ ติดต่อทาง
line id : @buyall (มีเครื่องหมาย @ด้วย) 
การจัดสเปคคอม เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดความคุ้มค่าในการซื้อ Personal Computer เป็นอย่างมาก ช่วยให้คุณเซฟเงินและได้คอมพิวเตอร์ที่ตรงกับสเปคและการใช้งาน และอาจจะทำให้มีงบเหลือไปอัพเกรดในส่วนต่าง ๆ ได้อีกด้วย แต่สำหรับมือใหม่ การจัดสเปคคอมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะชิ้นส่วนต่าง ๆ นั้นมีการอัพเกรดขึ้นมาตลอดเวลา เรียกได้ว่าคนที่เคยทำการบ้านอย่างหนักเมื่อ 5 ปีก่อน จะมาเปิดดูสเปคใหม่ในปัจจุบันก็อาจจะต้องใช้เวลาทำการบ้านตามสเปคอีกหลายชั่วโมง แล้วมือใหม่อย่างเรา ๆ จะไปรู้อะไร หนักไปกว่านั้นคือเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่รู้สเปคการใช้งาน ครั้นเลือกใช้สเปคที่ร้านจัดให้บางครั้งก็ไม่ตอบโจทย์เพราะใครจะไปรู้การใช้งานได้ดีกว่าตัวเราเองถูกไหมครับ ? ฉะนั้นวันนี้ Mercular จะพาทุกคนไปรู้จักว่าชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ต้องใส่ใจในการจัดคอมพิวเตอร์ซักเครื่อง ว่าชิ้นส่วนเหล่านี้ทำอะไรได้ และควรใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกซื้อ
ก่อนจัดสเปคคอมต้องรู้อะไรบ้าง
1.เครื่องนี้เป็นเครื่องแรกรึเปล่า - ถ้าเกิดว่าเป็นเครื่องแรก ให้หาจุดประสงค์ในการใช้งานของเราให้เจอ อยากจะใช้ทำอะไร จัดรายการ ตัดต่อ ร้องคาราโอเกะ หรือใช้เล่นเกม เป็นต้น โดยเราก็จะเอาสเปคขึ้นต่ำที่โปรแกรมการใช้งานหลักของเรามาเป็นมาตรฐาน แล้วอาจจะเพิ่มสเปคขึ้นไปอีกเล็กน้อย ให้การใช้งานลื่นไหล รองรับการอัพเดทในอนาคต
2.เครื่องเก่าเรามีปัญหาอะไรที่ไม่ตอบโจทย์การใช้งาน – ถ้าเครื่องนี้ไม่ใช่เครื่องแรก ส่วนมากผู้ใช้งาน จะเปลี่ยนคอมพิวเตอร์เพราะการทำงานของมันช้าลง หรือสเปคไม่ตอบโจทย์เราแล้ว ในส่วนนี้ถ้าเรารู้ว่าคอมพิวเตอร์เราขาดตกบกพร่องในส่วนไหน จะช่วยประหยัดเงินได้อีกเยอะ
3.เราต้องการใช้งานในแนวไหนเป็นพิเศษ – กลับมาที่คำถามเดิมจุดประสงค์ในการใช้งาน ถ้าเราตอบโจทย์การใช้งานได้ก่อนการจัดซื้อคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุค จะช่วยทำให้ตัวเลือกของเราลดลงจากหลายร้อย เหลือเพียงหลายสิบรุ่นเท่านั้น
5 ชิ้นส่วนหลักที่ต้องรู้จักก่อนซื้อ
เครื่องจะแรงหรือไม่ต้องดู - CPU
CPU คือตัวประมวลผลหลักของคอมพิวเตอร์ เรียกได้ว่าคอมพิวเตอร์จะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ไหน ก็ต้องวัดกันที่สเปคของ CPU นี้แหละ โดยค่าที่สำคัญที่สุดของ CPU ก็คือความเร็วการทำงานของมันที่จะถูกวัดเป็นหน่วยที่เรียกว่า GHz ซึ่งวิธีดู CPU ง่าย ๆ ก็ดูว่า ไอเจ้าค่า GHz ตัวนี้ส่วนไหนมีมากกว่านั่นเอง ยิ่งมีมากก็ยิ่งประมวลผลได้เร็ว ซึ่งค่าความเร็วนี้ส่วนมากผู้ซื้อจะได้รับข้อมูลมาเป็น xx / xx GHz ซึ่งหมายถึงความเร็วทำงานทั่วไปและความเร็วสูงสุดนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบัน ค่าย CPU ก็แบ่งออกเป็น 2 ค่ายได้แก่ Intel หรือค่ายฟ้า และ AMD หรือค่ายแดง ซึ่งบังเอิญมีชื่อรุ่นของ CPU ที่ใกล้เคียงกันคือ Intel i3,5,7,9 และ Ryzen 3,5,7,9 ซึ่งถือว่ามีสเปคอยู่ในระดับเดียวกันพอดิบพอดี ฉะนั้นจึงสามารถนำมาอธิบายได้ง่าย ๆ ดังนี้
Intel i3, Ryzen3
|
คอร์รุ่นถูกสุด เหมาะกับการใช้งานธรรมดา พิมพ์เอกสาร เปิด Youtube ไม่เหมาะกับการเล่นเกม หรือทำงานกราฟฟิคเลย
|
Intel i5, Ryzen5
|
คอร์ที่ใช้งานทั่วไปในคอมพ์หรือโน้ตบุคสำเร็จรูป เพียงพอต่อการเล่นเกมและการทำงานทั่ว ๆ ไปเช่นตัดต่อภาพอย่างง่าย
|
Intel i7, Ryzen7
|
CPU ระดับกลางไปสูง เล่นเกมได้เกือบทุกเกมบนโลกอย่างลื่นไหล ทำงานกราฟฟิคงานทั่วไปได้สบาย รวมไปถึงงานอนิเมท 3D เล็ก ๆ น้อย ๆ
|
Intel i9, Ryzen9
|
ถือว่า Over Spec สำหรับการเล่นเกมไปมาก เหมาะสำหรับสาย Hardcore ที่อยากเปิดเอฟเฟคแบบโหดจริง ๆ เท่านั้น ส่วนการทำงานใครที่ทำงานกราฟฟิคตัดต่อ ระดับสูง ก็ควรลงทุนกับ CPU ในระดับนี้
|
Tips – ปกติแล้ว CPU ของ Ryzen จะสเปคต่ำกว่า Intel เล็กน้อย เพราะตัวของ Ryzen ถูกออกแบบมาให้ทำงานแบบ Multi- core (ทำงานหลายคอร์) เป็นหลักทำให้ได้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกันกับ Intel (หรือแรงกว่า) สำหรับใครที่จะซื้อ CPU Ryzen มาใช้เองก็ต้องเลือก Main Board ที่รองรับ CPU ได้มากกว่า 1 ตัวด้วย
ครื่องทำงานลื่นไม่สะดุดต้องดู - RAM
เวลาคอมพิวเตอร์เรากำลังทำงานอยู่นั้นเบื้องหลังของมันคือการส่งคำสั่งออกไปต่อคิวรอเพื่อให้ CPU ประมวลผล ซึ่ง RAM หรือหน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์ นั้นก็จะทำหน้าที่รับข้อมูล จัดคิวและส่งต่อไปให้ CPU ประมวลผล ซึ่งหน่วยความจำที่มากขึ้นก็จะทำให้คุณสามารถใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ พร้อมกันได้เยอะหรือรันโปรแกรมที่หนัก ๆ ได้ โดยสเปคของแรมจะแบ่งหลัก ๆ ออกเป็น 2 ส่วนได้แก่
ขนาด
พื้นที่ของ RAM ที่สามารถกักคำสั่งหรือชุดข้อมูลเอาไว้ก่อนส่งไปให้ CPU ประเมินผล เป็นส่วนที่ต้องใส่ใจมาก ๆ หากทำงานจำพวกกราฟฟิค ทั้งงานภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง หรือ 3D เพราะงานเหล่านี้เน้นการรับส่ง ข้อมูลปริมาณมาก ๆ ทำให้ผู้ใช้งานต้องมีพื้นที่ RAM สำหรับจัดเก็บคำสั่งเอาไว้จำนวนมาก โดย RAM ขั้นต่ำในปัจจุบันก็ไม่ควรต่ำกว่า 8GB แม้ว่าคุณจะไมได้ใช้เล่นเกมหรือทำงานก็ตาม แต่ก็ควรจัดสเปคคอมพิวเตอร์เอาไว้เผื่อการใช้งานในอนาคตด้วย
ความเร็ว
ส่วนความเร็วของ RAM นั้นจะมีผลกับการรับส่งข้อมูลเป็น Realtime โดยดูได้จากค่า Hz บนตัวเร็ม ยิ่งมีมากก็จะหมายถึงตัวของมันสามารถส่งสัญญาณได้รวดเร็วมากนั่นเอง ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับพวกเกม ที่มีการ Render กราฟฟิคตลอดเวลา สำหรับเกมเมอร์ที่อยากได้ภาพคุณภาพสูง Frame rate แรง ๆ ต้องใส่ใจในส่วนนี้มากกว่าปริมาณของ RAM เสียอีก ส่วนสายกราฟฟิคนั้น ความเร็วแรมถือว่ามีส่วนเกี่ยวด้วยน้อยมาก ๆ ซึ่งความเร็วของ RAM นั้นควรจะซื้อให้สอดคล้องกับ Mainboard ของคุณ
รับซื้อคอมพิวเตอร์สำนักงาน – ทางออกง่าย ๆ สำหรับองค์กรที่ต้องการอัปเกรดอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์สำนักงานเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญของธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ ไม่ว่าจะใช้สำหรับงานเอกสาร การประชุมออนไลน์ หรือระบบจัดการข้อมูล แต่เมื่อใช้งานไปสักระยะ สเปกเครื่องอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการอีกต่อไป หลายบริษัทจึงเลือกอัปเกรดเครื่องใหม่ ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า “แล้วคอมพิวเตอร์สำนักงานเก่าจะทำอย่างไรดี?”
คำตอบง่าย ๆ คือ ขายให้กับร้านรับซื้อคอมพิวเตอร์สำนักงาน เพื่อเปลี่ยนสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ให้เป็นเงินสด พร้อมลดปัญหาการจัดเก็บอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น
ทำไมควรขายคอมพิวเตอร์สำนักงานให้กับร้านรับซื้อ
-
สะดวกและรวดเร็ว – ไม่ต้องลงประกาศขายเองให้เสียเวลา ร้านสามารถมารับถึงที่
-
ได้เงินก้อนทันที – เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการสภาพคล่องเพื่อนำไปลงทุนหรือซื้ออุปกรณ์ใหม่
-
ลดภาระการจัดเก็บ – คอมพิวเตอร์เก่าที่ไม่ได้ใช้กินพื้นที่และเสื่อมสภาพไปเรื่อย ๆ
-
ช่วยจัดการอย่างถูกวิธี – ร้านรับซื้อหลายแห่งมีขั้นตอนรีไซเคิลหรือจัดการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้อง
-
ให้ราคาตามสภาพจริง – เครื่องที่สภาพดีและมีสเปกสูงยังสามารถขายได้ราคาดี
ประเภทคอมพิวเตอร์สำนักงานที่สามารถขายได้
-
PC ตั้งโต๊ะ – ทั้งเครื่องประกอบและแบรนด์เนม เช่น Dell, HP, Lenovo
-
All-in-One – คอมพิวเตอร์แบบจอและเครื่องในตัว เหมาะกับออฟฟิศที่ต้องการความเรียบร้อย
-
โน้ตบุ๊กสำนักงาน – เครื่องพกพาที่ใช้ทำงานทั่วไป
-
Workstation – สำหรับงานกราฟิก 3D หรือวิศวกรรม
-
Server และอุปกรณ์เครือข่าย – บางร้านรับซื้อเพิ่มเติม
ขั้นตอนการขายคอมพิวเตอร์สำนักงาน
-
รวบรวมข้อมูลสเปกและจำนวนเครื่อง – จดรายละเอียด CPU, RAM, HDD/SSD, การ์ดจอ, ปีที่ซื้อ
-
ถ่ายภาพสภาพเครื่อง – ทั้งภายนอกและภายในเพื่อให้ผู้รับซื้อประเมินราคาได้แม่นยำ
-
ติดต่อร้านเพื่อประเมินราคา – แจ้งข้อมูลและจำนวนเครื่องทั้งหมด
-
ตกลงเงื่อนไขและนัดรับ – เลือกวันเวลาที่ไม่รบกวนการทำงานของพนักงาน
-
ตรวจสอบและรับเงินทันที – ร้านส่วนใหญ่จะจ่ายสดหรือโอนหลังตรวจเครื่อง
เคล็ดลับเพิ่มมูลค่าให้คอมพิวเตอร์สำนักงาน
-
ทำความสะอาดเครื่อง – ภาพลักษณ์ที่ดีช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและอาจได้ราคาสูงขึ้น
-
เก็บอุปกรณ์เสริมครบ – เช่น สายไฟ คีย์บอร์ด เมาส์ กล่องเดิม
-
ลบข้อมูลสำคัญ – เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลบริษัท ควรฟอร์แมตหรือล้างข้อมูลแบบถาวร
-
ขายเป็นล็อต – หากมีหลายเครื่อง การขายพร้อมกันอาจต่อรองราคาได้ดีกว่า
พื้นที่ให้บริการของร้านรับซื้อคอมพิวเตอร์สำนักงาน
ปัจจุบันมีร้านที่ให้บริการทั่วประเทศ ทั้งใน กรุงเทพฯ, ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ ๆ รวมถึงบางพื้นที่ต่างจังหวัดก็สามารถนัดรับถึงที่ได้ โดยเฉพาะองค์กรที่มีจำนวนเครื่องมาก
สรุป
การขายคอมพิวเตอร์สำนักงานให้กับร้านรับซื้อ เป็นวิธีที่ช่วยให้ธุรกิจลดภาระจัดเก็บ ได้เงินทุนกลับมา และยังช่วยให้เครื่องคอมเก่าถูกนำไปใช้ต่อหรือรีไซเคิลอย่างถูกวิธี เพียงเตรียมข้อมูลให้ครบ ทำความสะอาด และเลือกผู้รับซื้อที่เชื่อถือได้ คุณก็สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และได้ราคาที่คุ้มค่า

Line : @buyall (มีเครื่องหมาย@ด้วย)Email : info@panmakapmue.co.th
โทร : 081-9160211 , 081-9160211
รับเหมาคอมออฟฟิต ,
รับเหมาคอมสำนักงาน ,
รับซื่อคอมพิวเตอร์ เลิกกิจการ ,
รับซื่้อคอมเก่า ,
รับซื้อ PC เก่า
รายชื่อ 77 จังหวัดของประเทศไทย ที่เรามีทีมบริการ รับซื้อ รับเหมาคอมออฟฟิต
1. ภาคเหนือ / 9 จังหวัด
1.จังหวัดเชียงราย
2.จังหวัดเชียงใหม่
3.จังหวัดน่าน
4.จังหวัดพะเยา
5.จังหวัดแพร่
6.จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7.จังหวัดลำปาง
8.จังหวัดลำพูน
9.จังหวัดอุตรดิตถ์
———————————————————
2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ / 20 จังหวัด
1.จังหวัดกาฬสินธุ์
2.จังหวัดขอนแก่น
3.จังหวัดชัยภูมิ
4.จังหวัดนครพนม
5.จังหวัดนครราชสีมา
6.จังหวัดบึงกาฬ
7.จังหวัดบุรีรัมย์
8.จังหวัดมหาสารคาม
9.จังหวัดมุกดาหาร
10.จังหวัดยโสธร
11.จังหวัดร้อยเอ็ด
12.จังหวัดเลย
13.จังหวัดสกลนคร
14.จังหวัดสุรินทร์
15.จังหวัดศรีสะเกษ
16.จังหวัดหนองคาย
17.จังหวัดหนองบัวลำภู
18.จังหวัดอุดรธานี
19.จังหวัดอุบลราชธานี
20.จังหวัดอำนาจเจริญ
———————————————————
3.ภาคกลาง
มี 21 จังหวัด (กรุงเทพมหานครไม่ถือเป็นจังหวัด)
1.จังหวัดกำแพงเพชร
2.จังหวัดชัยนาท
3.จังหวัดนครนายก
4.จังหวัดนครปฐม
5.จังหวัดนครสวรรค์
6.จังหวัดนนทบุรี
7.จังหวัดปทุมธานี
8.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
9.จังหวัดพิจิตร
10.จังหวัดพิษณุโลก
11.จังหวัดเพชรบูรณ์
12.จังหวัดลพบุรี
13.จังหวัดสมุทรปราการ
14.จังหวัดสมุทรสงคราม
15.จังหวัดสมุทรสาคร
16.จังหวัดสิงห์บุรี
17.จังหวัดสุโขทัย
18.จังหวัดสุพรรณบุรี
19.จังหวัดสระบุรี
20.จังหวัดอ่างทอง
21.จังหวัดอุทัยธานี
———————————————————
4. ภาคตะวันออก / 7 จังหวัด
1.จังหวัดจันทบุรี
2.จังหวัดฉะเชิงเทรา
3.จังหวัดชลบุรี
4.จังหวัดตราด
5.จังหวัดปราจีนบุรี
6.จังหวัดระยอง
7.จังหวัดสระแก้ว
———————————————————
5. ภาคตะวันตก / 5 จังหวัด
1.จังหวัดกาญจนบุรี
2.จังหวัดตาก
3.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
4.จังหวัดเพชรบุรี
5.จังหวัดราชบุรี
———————————————————
6. ภาคใต้ / 14 จังหวัด
1.จังหวัดกระบี่
2.จังหวัดชุมพร
3.จังหวัดตรัง
4.จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.จังหวัดนราธิวาส
6.จังหวัดปัตตานี
7.จังหวัดพังงา
8.จังหวัดพัทลุง
9.จังหวัดภูเก็ต
10.จังหวัดระนอง
11.จังหวัดสตูล
12.จังหวัดสงขลา
13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
14.จังหวัดยะลา