สำหรับสาวๆ ผู้ชื่นชอบแฟชั่น หรือหลงใหลกระเป๋าแบรนด์เนม คงจะไม่มีความฝันใดที่จะสูงไปกว่าการเป็นเจ้าของกระเป๋า Chanel อันเป็นที่สุดแห่งกระเป๋าผู้หญิงทุกยุคทุกสมัย แต่ด้วยเลขราคาที่สูงลิ่วเหลือเกินของกระเป๋าแบรนด์นี้ ทำให้ผู้หญิงอย่างเราๆ ต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะซื้อมันดีหรือไม่ ซื้อมาแล้วจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม มันจะเป็นการลงทุนสำหรับอนาคตที่ดีจริงหรือเปล่า และถ้าเงินในกระเป๋ายังหนักไม่พอ พวกเราก็ต้องยอมใจเย็น เก็บหอมรอมริบเป็นเดือนๆ หรือเป็นปีๆ กว่าจะได้กระเป๋าแบรนด์นี้มาครอบครองสมใจ
นอกจากนี้อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ยากต่อการตัดสินใจของสาวๆ ที่จะลงทุนซื้อกระเป๋า Chanel ก็คือความหลากหลายของรุ่นกระเป๋าที่มีให้เลือกเยอะไม่ใช่เล่น รุ่นนี้ก็สวย รุ่นนั้นก็สวย อ๊ายย! เห็นแล้วอยากได้มันทุกรุ่นเลยให้ตายสิ! สาวๆ คะ เราเข้าใจคุณค่ะ วันนี้เราเลยมีไกด์ดีๆ มาฝากกัน เผื่อจะช่วยให้การตัดสินใจในการซื้อกระเป๋า Chanel ของคุณง่ายขึ้นไม่มากก็น้อย
[ ควรรู้ว่ากระเป๋ายอดนิยมรุ่นไหน จะมีมูลค่ามากขึ้นตามกาลเวลา ]
กระเป๋ารุ่น ‘Classic Flap Bag’ ขนาดกลางหรือขนาดจัมโบ้ ที่ต่อให้ผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงความฮอตไม่เสื่อมคลาย ส่วนรุ่นหรือสไตล์ที่นิยมมากที่สุด ก็คงต้องยกให้กับรุ่น ‘Chanel Boy Bag’ ที่ปู่ Karl Lagerfeld ดีไซน์ขึ้นในปี 2011 แต่ถ้าคุณอยากมั่นใจว่ากระเป๋า Chanel ของคุณจะมีมูลค่าสูงขึ้นตามกาลเวลา เผื่อคุณเกิดอยากจะขายมันต่อในอนาคต แนะนำว่าคุณควรซื้อกระเป๋ารุ่นคลาสสิคเป็นหลัก เช่นรุ่น Chanel Jumbo Flap ที่ทำจากหนัง lambskin (ลูกแกะ) หรือหนัง caviar (วัว)
และรู้หรือไม่ว่า Chanel จะชอบขึ้นราคาของกระเป๋าแต่ละรุ่นทุกๆ 1-2 ปี? ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณซื้อรุ่น Jumbo Flap เมื่อปี 2006 ตอนนั้นราคาอาจอยู่ที่ประมาณ 1,795 USD (64,700 กว่าบาท) แต่ถ้าคุณซื้อกระเป่ารุ่นนี้ในปี 2015 ราคาก็จะพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 5,500 USD! (198,500 กว่าบาท!) เอาเป็นว่าถ้าคุณเป็นเจ้าของกระเป๋า Chanel รุ่นใดมากกว่า 10 ปีขึ้นไปล่ะก็ จงมั่นใจได้เลยว่าคุณกำลังมีสมบัติล้ำค่าอยู่ในมือ เพราะฉะนั้นจงเก็บรักษาตัวกระเป๋าให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดนะจ๊ะสาวๆ
[ อย่ามองข้ามกระเป๋ารุ่นหายาก limited-edition ]
อ่านมาถึงตรงนี้ สาวๆ คงจะพอรู้แล้วว่าการซื้อกระเป๋า Chanel นั้นมันคือการลงทุนจริงๆ แน่นอนว่าถ้าคิดจะซื้อกระเป๋าจากแบรนด์นี้ทั้งที ก็ควรเป็นพวกรุ่นคลาสสิคทั้งหลาย แต่ในขณะเดียวกันก็อย่ามองข้ามพวกกระเป๋ารุ่นแปลกๆ หายากๆ limited-edition ยิ่งถ้าคุณมีเก็บไว้นานเท่าไหร่ มูลค่าของมันก็จะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นถ้าอยากซื้อมาเพื่อขายต่อรับรองว่าสบายชัวร์ เพราะยังไงก็ต้องมีคนคอยตามล่าหาซื้อกระเป๋ารุ่นพวกนี้อยู่แล้ว
อย่างเช่นพวกคลัตช์ minaudière สไตล์ต่างๆ ทั้งสไตล์ vinyl record สไตล์ cassette tape และสไตล์ gold bar เป็นต้น Fashionphile บอกว่าคลัตช์รุ่น cassette tape จากคอลเล็คชั่น Spring/Summer 2004 นั้นจริงๆ ขายอยู่ที่ราคา 1,600 USD (57,690 บาท) แต่เคยมีคนมาขายรุ่นแบบที่เป็นโปร่งใส ซึ่งหายากยิ่งกว่า ในราคา 9,000 USD (324,500 กว่าบาท!!!) แล้วสามารถขายได้ภายใน 30 นาที แบบแทบไม่น่าเชื่อ
[ เลือก hardware ที่ชอบและเหมาะกับคุณจริงๆ ]
กระเป๋า Chanel นั้นมีหลายรุ่นมากๆ เพราะฉะนั้นพวก hardware อย่างเช่น ที่รูดซิป สายกระเป๋า และตราโลโก้ CC ด้านหน้ากระเป๋า ก็จะมาในหลากหลายสไตล์ไม่เหมือนกัน รวมถึงตัว material ที่ใช้ก็เช่นกัน ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่สีทองเงาแวววาว ทองด้าน เงินด้าน เงินแวววาว ไปจนถึงเรซิน เรียกได้ว่าไม่ว่าคุณจะมีรสนิยมแบบไหน คุณก็จะต้องเจอกับกระเป๋า Chanel สไตล์ที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับคุณแน่ๆ
แต่ถ้าสาวๆ คนไหนคิดที่จะซื้อเพื่อขายต่อในอนาคต แนะนำว่าให้เลือกพวกรุ่นคลาสสิคทั้งหลายจะดีที่สุด เพราะรุ่นพวกนี้ไม่มีวันตกยุค มีแต่คนอยากได้ รู้หรือไม่ว่าพวก hardware วินเทจสีทองรุ่นเก่าๆ ของ Chanel นี่ทำจากทองผสม 24K เชียวนะ
[ ศึกษาหาข้อมูลถึงแหล่งซื้อที่ดีที่สุด ]
ถ้าคุณไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบกระเป๋า Chanel ว่าเป็นของแท้หรือของปลอม (ซึ่งจริงๆ แล้วก่อนซื้อก็ควรหาข้อมูลถึงวิธีตรวจดูกระเป๋า Chanel ของแท้มาบ้าง) แนะนำว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณควรไปซื้อกับร้านที่มีชื่อเสียง และไว้ใจได้ทางด้านจำหน่ายกระเป๋าแบรนด์เนมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นช็อปของแบรนด์ตามห้างฯ ไปเลย Online Store ต่างๆ หรือแม้กระทั้งพวกตลาด Vintage Market ที่เมืองนอก (แต่ก็ต้องตาดีๆ หน่อย) ที่คุณสามารถหาซื้อกระเป๋า Chanel รุ่นคลาสสิคงามๆ ได้ในราคาที่เบาลงมาหน่อย
แต่ถ้าคุณจะซื้อแบบมือหนึ่ง ต้องเช็คให้ดีก่อนซื้อว่าร้านที่คุณไปช้อปนั้นมีนโยบายคืนสินค้าหรือไม่ ถ้าร้านนั้นไม่รับคืนของ ‘no returns’ policy ล่ะก็ นั้นถือเป็นสัญญาณเตือนภัยแล้วล่ะ เดี๋ยวนี้มีช็อปมากมายที่ขายกระเป๋าก๊อปเกรด A ของ Chanel ได้อย่างเนียนสุดๆ มีมาพร้อมกับ Serial Number, Hologram Sticker, Authenticity Card และใบเสร็จ แถมยังทำจากหนังและ hardware คุณภาพอย่างดีเหมือนกับของจริงอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นอย่าหลงกลเพียงเพราะกระเป๋าที่คุณกำลังจะซื้อมีฟีเจอร์เหล่านี้ อย่างที่บอกว่าก่อนตัดสินใจซื้อ ควรศึกษา หาข้อมูลทุกอย่างมาอย่างดีก่อน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ และเสียดายเงินในภายหลัง
รายชื่อ 77 จังหวัดของประเทศไทย ที่เรามีทีมบริการ รับซื้อ chanel
1. ภาคเหนือ / 9 จังหวัด
1.จังหวัดเชียงราย
2.จังหวัดเชียงใหม่
3.จังหวัดน่าน
4.จังหวัดพะเยา
5.จังหวัดแพร่
6.จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7.จังหวัดลำปาง
8.จังหวัดลำพูน
9.จังหวัดอุตรดิตถ์
———————————————————
2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ / 20 จังหวัด
1.จังหวัดกาฬสินธุ์
2.จังหวัดขอนแก่น
3.จังหวัดชัยภูมิ
4.จังหวัดนครพนม
5.จังหวัดนครราชสีมา
6.จังหวัดบึงกาฬ
7.จังหวัดบุรีรัมย์
8.จังหวัดมหาสารคาม
9.จังหวัดมุกดาหาร
10.จังหวัดยโสธร
11.จังหวัดร้อยเอ็ด
12.จังหวัดเลย
13.จังหวัดสกลนคร
14.จังหวัดสุรินทร์
15.จังหวัดศรีสะเกษ
16.จังหวัดหนองคาย
17.จังหวัดหนองบัวลำภู
18.จังหวัดอุดรธานี
19.จังหวัดอุบลราชธานี
20.จังหวัดอำนาจเจริญ
———————————————————
3.ภาคกลาง
มี 21 จังหวัด (กรุงเทพมหานครไม่ถือเป็นจังหวัด)
1.จังหวัดกำแพงเพชร
2.จังหวัดชัยนาท
3.จังหวัดนครนายก
4.จังหวัดนครปฐม
5.จังหวัดนครสวรรค์
6.จังหวัดนนทบุรี
7.จังหวัดปทุมธานี
8.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
9.จังหวัดพิจิตร
10.จังหวัดพิษณุโลก
11.จังหวัดเพชรบูรณ์
12.จังหวัดลพบุรี
13.จังหวัดสมุทรปราการ
14.จังหวัดสมุทรสงคราม
15.จังหวัดสมุทรสาคร
16.จังหวัดสิงห์บุรี
17.จังหวัดสุโขทัย
18.จังหวัดสุพรรณบุรี
19.จังหวัดสระบุรี
20.จังหวัดอ่างทอง
21.จังหวัดอุทัยธานี
———————————————————
4. ภาคตะวันออก / 7 จังหวัด
1.จังหวัดจันทบุรี
2.จังหวัดฉะเชิงเทรา
3.จังหวัดชลบุรี
4.จังหวัดตราด
5.จังหวัดปราจีนบุรี
6.จังหวัดระยอง
7.จังหวัดสระแก้ว
———————————————————
5. ภาคตะวันตก / 5 จังหวัด
1.จังหวัดกาญจนบุรี
2.จังหวัดตาก
3.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
4.จังหวัดเพชรบุรี
5.จังหวัดราชบุรี
———————————————————
6. ภาคใต้ / 14 จังหวัด
1.จังหวัดกระบี่
2.จังหวัดชุมพร
3.จังหวัดตรัง
4.จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.จังหวัดนราธิวาส
6.จังหวัดปัตตานี
7.จังหวัดพังงา
8.จังหวัดพัทลุง
9.จังหวัดภูเก็ต
10.จังหวัดระนอง
11.จังหวัดสตูล
12.จังหวัดสงขลา
13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
14.จังหวัดยะลา