น้ำมันหอมระเหย (Essential Oil) ถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติอันทรงคุณค่า ที่มนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่ยุคโบราณ ทั้งในด้านความงาม สุขภาพ และจิตบำบัด โดยการได้น้ำมันหอมระเหยที่บริสุทธิ์นั้น ต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “การกลั่น” ซึ่งจำเป็นต้องใช้ เครื่องกลั่นน้ำมันหอมระเหย ที่ออกแบบมาเพื่อแยกสารหอมจากพืชอย่างแม่นยำและปลอดภัย
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ เครื่องกลั่นน้ำมันหอมระเหย ทั้งในแง่ของประเภท วิธีการทำงาน จุดเด่นของแต่ละแบบ รวมถึงคำแนะนำในการเลือกใช้ให้เหมาะกับวัตถุดิบและการใช้งานของคุณ
เครื่องกลั่นน้ำมันหอมระเหย (Essential Oil Distiller) คืออุปกรณ์ที่ใช้สกัดน้ำมันหอมจากพืช สมุนไพร หรือเปลือกไม้ โดยอาศัยหลักการเปลี่ยนสถานะของน้ำให้กลายเป็นไอน้ำ แล้วพาไอผ่านพืชที่ต้องการสกัดเพื่อดึงสารหอมระเหยออกมา จากนั้นไอน้ำที่อิ่มตัวด้วยน้ำมันจะถูกทำให้เย็นลงและแยกเป็นน้ำมันหอมบริสุทธิ์ออกมาในภาชนะสุดท้าย
การกลั่นน้ำมันหอมมีหลายวิธี แต่เครื่องกลั่นสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ตามกระบวนการทำงาน ดังนี้:
หลักการ: น้ำร้อนในหม้อจะระเหยเป็นไอ ไอน้ำผ่านพืชที่อยู่ในภาชนะ กลิ่นและน้ำมันหอมจะลอยมากับไอและถูกควบแน่นในคอนเดนเซอร์
ข้อดี:
ได้ น้ำมันหอมที่บริสุทธิ์สูง
เหมาะกับพืชที่ทนความร้อนได้ เช่น ใบยูคาลิปตัส, ตะไคร้, เปลือกไม้
นิยมใช้มากที่สุดในระดับอุตสาหกรรมและงานวิจัย
ข้อเสีย:
ต้องการความร้อนสม่ำเสมอ
ใช้เวลานาน และควบคุมความดันอย่างแม่นยำ
หลักการ: ใส่วัตถุดิบลงไปในหม้อน้ำโดยตรง เมื่อน้ำเดือดจะระเหยออกมาพร้อมกลิ่น แล้วควบแน่นเป็นน้ำมันหอมระเหย
ข้อดี:
เหมาะกับพืชที่แห้งและเบา เช่น ดอกไม้บางชนิด
เครื่องมือเรียบง่าย เหมาะกับการใช้งานระดับบ้านหรือทดลอง
ข้อเสีย:
ความร้อนโดยตรงอาจทำให้คุณภาพน้ำมันลดลง
น้ำมันอาจติดอยู่ในพืชมากกว่าการกลั่นด้วยไอน้ำ
หลักการ: กลั่นภายใต้ความดันต่ำ เพื่อให้จุดเดือดของน้ำและน้ำมันลดลง เหมาะสำหรับพืชที่ไวต่อความร้อน
ข้อดี:
คุณภาพน้ำมันดีที่สุด
สกัดกลิ่นได้แม้จากพืชที่ระเหยง่ายหรือไวต่อความร้อน เช่น ดอกกุหลาบ
ข้อเสีย:
เครื่องราคาสูง
ซับซ้อนและต้องการทักษะระดับสูง
แม้แต่เครื่องขนาดเล็กก็ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญดังนี้:
หม้อต้ม (Boiler): สำหรับต้มน้ำเพื่อสร้างไอน้ำ
ภาชนะบรรจุพืช (Plant Chamber): วางพืชหรือสมุนไพรเพื่อให้ไอผ่าน
คอนเดนเซอร์ (Condenser): ท่อทำความเย็น เพื่อควบแน่นไอน้ำ
อุปกรณ์แยกน้ำมัน (Separator): แยกน้ำมันหอมจากน้ำ (Hydrosol)
วัตถุดิบ | ระบบกลั่นที่เหมาะ |
---|---|
พืชใบเช่น ตะไคร้ ยูคาลิปตัส | กลั่นด้วยไอน้ำ |
ดอกไม้ที่เปราะบาง เช่น ลาเวนเดอร์, กุหลาบ | กลั่นสุญญากาศ |
สมุนไพรพื้นบ้าน เช่น ใบมะกรูด, ขิง | กลั่นแบบจุ่ม |
ปริมาณต่อครั้ง | ประเภทเครื่อง |
---|---|
ทดลอง (100–300 ml) | เครื่องกลั่นแก้ว ขนาดเล็ก |
ระดับบ้าน/โฮมยูส (1–5 ลิตร) | เครื่องกลั่นสแตนเลสหรือแก้วผสม |
ระดับเชิงพาณิชย์ (>10 ลิตร) | เครื่องกลั่นไอน้ำแบบแรงดัน, ระบบหมุนเวียนอัตโนมัติ |
วัสดุ | คุณสมบัติ |
---|---|
แก้ว | มองเห็นการกลั่นชัดเจน เหมาะกับงานสาธิต |
สแตนเลส | ทนทาน ทำความสะอาดง่าย ใช้ต่อเนื่องได้ |
ทองแดง | กระจายความร้อนได้ดี แต่ราคาสูง |
เครื่องกลั่นที่ดีควรมีระบบวัดอุณหภูมิ และควบคุมแรงดันเพื่อไม่ให้กลิ่นไหม้หรือหาย
รุ่นอุตสาหกรรมควรมี ระบบอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิ/แรงดัน
ห้ามปล่อยให้หม้อต้มแห้ง อาจทำให้เครื่องเสียหาย
ควรทำความสะอาดอุปกรณ์หลังใช้งานทุกครั้ง
เลือกใช้วัตถุดิบที่สะอาด ปราศจากสารเคมี
ตรวจสอบความดันและความร้อนอย่างสม่ำเสมอ
ใช้หยดใน เครื่องพ่นอโรม่า เพื่อสร้างบรรยากาศในบ้าน
ผสมกับ น้ำมันพาหะ (Carrier Oil) ใช้ทานวด
ทำผลิตภัณฑ์ DIY เช่น สบู่, โลชั่น, เทียนหอม
ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร, เครื่องสำอาง และสมุนไพร
เครื่องกลั่นน้ำมันหอมระเหย ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทดลอง แต่เป็นอุปกรณ์ที่เปิดโอกาสให้คุณสกัดพลังจากพืชธรรมชาติด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะใช้ในบ้าน งานฝีมือ หรือธุรกิจขนาดเล็ก การเลือกเครื่องกลั่นที่เหมาะสมกับวัตถุดิบ ปริมาณการผลิต และคุณภาพที่ต้องการ จะทำให้คุณได้ น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์แท้ 100% อย่างภาคภูมิใจ
Line : @buyall (มีเครื่องหมาย@ด้วย)
Email : info@panmakapmue.co.th
โทร : 091-1206831